ประวัติศาสตร์ เป็นเรื่องราวของความรุ่งเรืองและความตกต่ำของชนชาติต่าง ๆ ในอดีตที่ให้บทเรียนอันทรงคุณค่ามหาศาลแก่มนุษย์ในปัจจุบันสำหรับการกำหนดอนาคตของชาติตน
อย่างน้อยที่สุด ประวัติศาสตร์สอนให้มนุษย์ได้รู้ว่ายามใดก็ตามที่ชนชาติใดมีความสมัครสมานสามัคคี มีวัตถุประสงค์และเป้าหมายร่วมกัน ชนชาตินั้นก็จะมีพลังในการสร้างความเข้มแข็งและความเจริญมั่งคั่งให้แก่ชาติของตัวเอง แต่ถ้าชนชาติใดแตกความสามัคคีและเห็นแก่ประโยชน์ของตัวเองเป็นสำคัญชาตินั้นก็จะประสบกับความตกต่ำและความหายนะในที่สุดนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมชาติต่าง ๆ จึงไม่เพียงแต่จะพยายามรักษาซากวัตถุทางประวัติศาสตร์และโบราณสถานของชาติตนเองไว้เท่านั้น แต่ยังได้ถ่ายทอดประวัติศาสตร์ของชนชาติตนเองให้แก่อนุชนคนรุ่นหลังในรูปของบทเรียนหรือตำราที่ใช้สอนในสถาบันการศึกษาและยังได้สร้างอนุสรณ์สถานเตือนใจให้คนในปัจจุบันและในอนาคตได้ระลึกถึงประวัติศาสตร์ในอดีตด้วย ประวัติศาสตร์จึงมีบทบาทสำคัญต่อปัจจุบันและอนาคตของชาติต่างๆ ชาติใดที่ไม่รู้จักประวัติศาสตร์ของตัวเอง ชาตินั้นก็จะไม่รู้จักอนาคตของตัวเองเช่นกัน